
5 เครื่องมือ AI สำหรับออกแบบกราฟิก
วิกฤติยุค AI
ตอนนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีเจอ ai เต็มไปหมด หลายคนถึงกับกลัวว่า ai จะมาแย่งงานและทำให้มนุษย์อย่างเราตกงานในที่สุด
ความกังวลนี้เกิดขึ้นไม่เว้นแม้แต่คนทำงานสร้างสรรค์หรือนักออกแบบที่ว่ากันว่ายากที่ ai จะเลียนแบบผลงาน แต่เราก็เห็นกันแล้วว่า ai พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจนบางครั้งก็สามารถทำได้ดีกว่ามนุษย์เสียอีก
ดังนั้นความคิดที่ว่า ai จะมาแย่งงานก็คงไม่ผิดนัก แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราทำงานอะไร ทำงานอย่างไร และเรียนรู้การทำงานร่วมกับ ai มากน้อยแค่ไหน
AI คือเทคโนโลยีหนึ่ง
มันที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเหมือนที่มนุษย์เคยคิดค้นรถยนต์ในสมัยก่อน บางคนอาจหัวเราะเยาะว่ารถยนต์จะสู้ม้าจริง ๆ ได้ยังไง บางคนก็กังวลว่าคนขี่ม้าจะตกงาน ไม่ว่าจะเป็นคำพูดไหนก็มีทั้งส่วนถูกและผิด อยู่ที่ว่าเรามองมุมไหนและใช้ในบริบทอะไร
สำหรับนักออกแบบกราฟิกแล้ว ต้องยอมรับว่า ai สามารถแย่งงานบางอย่างได้จริง เพราะเครื่องมือ ai ต่าง ๆ ทำให้ลูกค้าสามารถทำงานเองโดยไม่ต้องพึ่งนักออกแบบ (เพื่อประหยัดเวลาและงบประมาณ) โดยเฉพาะงานง่าย ๆ ที่ต้องการความรวดเร็วมากกว่าประสิทธิภาพ
แต่ก็ยังมีงานบางอย่างที่ ai ยังไม่อาจทำแทนได้อย่างสมบูรณ์ เช่น งานที่มีความซับซ้อนและความละเอียดสูง งานเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งพาการบูรณาการขั้นตอนต่าง ๆ ผ่านความคิดของนักออกแบบอยู่
ดังนั้นการจะเป็นนักออกแบบที่ได้เปรียบในยุค ai จึงจำเป็นต้องเรียนรู้การทำงานร่วมกับ ai เพื่อประหยัดเวลาในการทำงานที่ซ้ำซากจำเจ และมีเวลาสำหรับการคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
AI กับงานกราฟิก
ต่อไปนี้คือ 5 เครื่องมือ AI ที่แนะนำให้นักออกแบบต้องมีไว้เป็นตัวช่วยในทำงาน
1. ChatGPT – ในกรณีที่สมองตีบตัน คิดไอเดียไม่ออก ลองให้ AI ช่วยระดมสมองและรีเสิร์ชให้ รับรองว่าจะได้อะไรสักอย่างไว้ต่อยอดแน่นอน
2. Leonardo AI – ถ้าอยากเสนอภาพค็อนเซ็ปต์หรือ moodboard ให้ลูกค้าเห็นภาพไอเดียในหัวโดยไม่พึ่งแค่ข้อความหรือการอธิบายเฉย ๆ ก็ลองใช้ตัวนึ้ดู
3. Adobe Express – แทนที่จะมานั่งรีทัช เติมองค์ประกอบหรือลบพื้นหลังเอง ก็โยนให้เอไอช่วยทำซะ เร็วกว่าเดิมเยอะ
4. Runway ML – บางครั้งภาพนิ่งเฉย ๆ อาจยังไม่ตอบโจทย์ ลองเพิ่มความน่าสนใจให้เรื่องราวของแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ด้วยการสร้างวิดีโอจากข้อความหรือภาพนิ่งดูสิ
5. Notion AI – AI อาจทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้นและรับงานได้มากกว่าเดิม แต่ถ้าการจัดการไม่ดี ธุรกิจก็อาจพังได้เช่นกัน จึงควรมีตัวช่วยในการจัดการงานด้วย เพื่อให้รับมือกับงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องมือทั้ง 5 ตัวนี้ เป็นตัวช่วยเบื้องต้นที่อยากแนะนำนักออกแบบกราฟิกได้ลองไปใช้กันดู ถ้าไม่ถูกใจก็เปลี่ยน option เป็นตัวอื่น ๆ ที่เหมาะกับสไตล์การทำงานและสายงานของเราที่สุด
พื้นฐานยังคงสำคัญ
สุดท้ายนี้ อยากจะฝากเพื่อนนักออกแบบไว้ว่า ai เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้นเท่านั้น สิ่งสำคัญสำหรับนักออกแบบยังคงเป็นการพลิกแพลงไอเดีย ใส่ความคิดสร้างสรรค์ และซอฟต์สกิลต่าง ๆ
อย่าเป็นแต่นักออกแบบที่เอาพึ่งแต่ ai จนไม่ได้ใช้ความคิดของเราเลย เพราะต่อให้เครื่องมือดีแค่ไหน ถ้าเราใช้ผิด ๆ โดยไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคนและงานที่เราทำ ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะกลายเป็นแย่ก็ได้
Comments (0)